Blog RSS



Sip & Savor: From competition to inspiration

“การแข่งขันกาแฟมันไม่ใช่แค่เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม 100% แต่เราต้องเตรียมไปให้มากกว่านั้นด้วยซ้ำ ต้องคิดถึง worst case ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาเราจะแก้ไขยังไง และสุดท้าย อุปกรณ์การแข่งขันที่ช่วยให้การแข่งมันเพอร์เฟกต์ก็สำคัญ เพราะกรรมการมองหาคนที่เก่งที่สุด เป๊ะที่สุด เข้าใจกาแฟตัวเอง เข้าใจความเป็น specialty coffee และเข้าใจความเป็น brewer มากที่สุด” พิมพ์–พิมพ์รัตน์ จาดศรี 3rd runner-up ในรายการ Thailand National Brewers Cup Championship 2024 และทีมโค้ชจาก @SAUCE COFFEE BAR ย้อนเล่าถึงประสบการณ์ตรงจากการแข่งขันครั้งล่าสุดให้พวกเราชาว Yellow Stuff ได้ฟัง เพราะการเตรียมพร้อมเป็นเรื่องสำคัญ พิมพ์ และทีมโค้ชจาก SAUCE COFFEE และ Yellow Stuff จึงจัด ‘SIP AND SAVOR From competition to inspiration’ เวิร์กช็อปเล็กๆ ในบรรยากาศอบอุ่นเพื่อชวนทุกคนที่รักกาแฟและสนใจอยากร่วมแข่งขันมาฟังเบื้องหลังการเตรียมตัวและเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันแข่งจริง ความพิเศษคืองานนี้ผู้ร่วมเวิร์กช็อปทุกคนยังได้จิบกาแฟที่พิมพ์ใช้ในการแข่งขันอย่าง Colombia Mikava Gesha (Natural carbonic maceretion process) และ Panama Abu Gesha GN-19 (Natural double anaerobic process) ในบาร์และบ้านของ Yellow Stuff อีกด้วย ว่าแต่กิจกรรมเวิร์กช็อปในบ้านของ Yellow Stuff ครั้งนี้เป็นยังไงบ้าง เราหยิบไฮไลต์สำคัญมาให้ทุกคนสัมผัสประสบการณ์ไปพร้อมกัน 1. ปรับ Mindset ก่อนแข่ง.“ปีที่แล้วที่เราลงแข่ง เราไม่รู้อะไรเลย เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารายการมันใหญ่มาก แต่เราก็ถือว่าเราทำเต็มที่และได้เข้าไปเก็บประสบการณ์.“พอปีนี้ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 มา มันก็เกินคาดประมาณหนึ่งและทำให้เราได้บทเรียนเยอะมาก.“โดยเฉพาะบทเรียนที่ว่ามันไม่ใช่แค่เราต้องเตรียมตัวไปให้พร้อม 100% แต่เราต้องเตรียมไปให้มากกว่านั้น ต้องคิดถึง worst case ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา เราจะแก้ไขยังไง .“เพราะเวลาแข่งจริงมันอาจจะมีอุบัติเหตุหน้างานให้ต้องแก้ไข เราก็ต้องพยายามรับมือกับมัน ไม่ปล่อยเบลอหรือท้อใจ .“ไม่อย่างนั้นเราอาจมาเสียดายกับการเตรียมตัวที่ผ่านมาก็ได้” 2. ตีโจทย์ให้แตก.“ส่วนการแข่งขันในปีนี้แบ่งออกเป็น 3 รอบแบบปีที่แล้ว นั่นคือปีนี้ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 20 คนจะต้องแข่งรอบ Open Service หรือรอบที่นำกาแฟของตัวเองมาชง เพื่อคัดเหลือ 12 คนไปแข่งรอบ Compulsory Service หรือรอบที่ใช้กาแฟกลาง ก่อนจะคัดให้เหลือ 6...

Continue reading →



จุดเปลี่ยนและบทเรียนจากการแข่งขัน Thailand National Barista Championship ของ ‘วิว’ จาก Hai Coffee Roaster

แม้ Thailand Coffee Fest 2023 จะจบไปแล้ว แต่เราเชื่อว่าหลายคนแถวๆ นี้ยังคงรู้สึกตื่นเต้นหรือว้าวกับรายการแข่งขันอย่าง Thailand National Barista Championship 2024 ที่จัดขึ้นในงาน แต่มุมหนึ่งอาจจะยังไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับรายการแข่งขันบาริสต้านี้มากเท่าไหร่นัก วันนี้ Yellow Stuff ขอย้อนเวลากลับไปยังช่วงก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น เราได้มีโอกาสพบกับ ‘วิว-มฆวรรณ กิจยะกานนท์’ จาก Hai Coffee Roaster ผู้เข้าแข่งขันที่คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 3 จากการแข่งขันที่เพิ่งจบไปสดๆ ร้อนๆ นอกจากได้ดูเบื้องหลังการซ้อมที่เข้มข้นของวิวแล้ว ในบทสนทนาที่เกิดขึ้นนี้ วิวยังได้พาเราไปทำความเข้าใจหัวใจสำคัญของการแข่งขัน แถมยังได้ฟังประสบการณ์และมุมมองของการเป็นนักแข่งขันอันน่าสนใจของเจ้าตัวด้วย “ปีนี้เรามีเวลาซ้อมมากขึ้น พอได้คลุกคลีกับกาแฟเต็มตัวมากๆ อีกครั้ง ความรู้สึกมันเหมือนวันแรกที่เราเข้าสู่โลกของคนทำกาแฟเมื่อปี 2015 เลย” วิวใส่ตัวเองไปอย่างเต็มที่แค่ไหน และมีเคล็ดไม่ลับอะไรที่เตรียมไว้คว้ารางวัลจากคณะกรรมการบ้าง มารู้ไปพร้อมกันที่บทสนทนานี้เลย! *บทสนทนานี้เกิดขึ้นในช่วงหนึ่งเดือนก่อนการแข่งขัน Thailand National Barista Championship 2024  สำหรับคนที่คุ้นชื่อรายการนี้ แต่ไม่รู้ว่าต่างกับรายการแข่งบาริสต้าอื่นยังไง ขอบอกแบบรวบรัดว่าเป็นรายการที่ผู้เข้าแข่งขันต้องงัดทักษะบาริสต้าที่สั่งสมมาเป็นเวลาหลายปีมาสู้กัน โดยบาริสต้าแต่ละคนจะมีเวลาคนละ 15 นาที สำหรับการนำเสนอ 3 เมนูบังคับจากกาแฟสายพันธุ์ที่บาริสต้าเป็นคนเลือกสรรมาเอง เสิร์ฟทั้งหมด 3 เมนู เมนูละ 4 แก้ว และต้องพิสูจน์ให้กรรมการเห็นให้ได้ว่า พวกเขาชงกาแฟและพรีเซนต์มันออกมาได้น่าประทับใจแค่ไหน “ปีนี้เรามีเวลาซ้อมมากขึ้นกว่าทุกปีที่เราแข่ง เรากลับมารู้สึกอยากพัฒนาตัวเอง เหมือนกับว่าเราได้สร้างแบรนด์ ไปเป็นนักธุรกิจ ทำทุกอย่างเพื่อความเป็นอยู่ของตัวเราและครอบครัวมาสักพักแล้ว ก็อยากกลับมาบาลานซ์แพสชั่นที่ตัวเองเคยมี คือเราเชื่อว่าวันใดวันหนึ่ง ถ้าเราไม่บาลานซ์ เราอาจจะเสียฝั่งหนึ่งไป พอได้คลุกคลีกับกาแฟเต็มตัวมากๆ อีกครั้ง ได้กลับมาอินกับมัน ความรู้สึกมันเหมือนวันแรกที่เราเข้าสู่โลกของคนทำกาแฟเมื่อปี 2015 เลย” การเปิดร้านกาแฟในปีแรกสำหรับวิว อดีตคนเบื้องหลังโปรดักชั่นเฮ้าส์นั้นไม่ง่าย แต่ก็ทำให้เขาได้ค้นพบแรงดึงดูดสู่การเป็นบาริสต้านักแข่งเจนเวที วิวหยิบ Fellow Eddy Steaming Pitcher ที่เขาซ้อมจนเข้ามือมาทำท่าเทนมให้เราดู “อย่างตัวนี้เราคิดว่าเราจะเอาไปแข่งด้วย ข้อดีของพิชเชอร์รุ่นนี้คือมันแก้ไขจุดอ่อนอย่างหนึ่งของเราได้ ถ้าสังเกตปากจะเป็นสโลปขึ้นไป เทียบกับพิชเชอร์ปกติที่ปากจะตรง เราเป็นคนเทนมแล้วฟองไหลลงไปเยอะเลยกังวลตอนเทนมมากๆ คือ ซึ่งพิชเชอร์ตัวนี้ ทำให้นมไหลไปในจังหวะที่เราไม่ต้องกดมัน ก็ช่วยเราได้พอสมควร” การแข่งขันนี้ไม่เพียงแต่มองหาบาริสต้าที่สั่งสมประสบการณ์มานาน เนิร์ดกาแฟสุดๆ หรือใช้งานอุปกรณ์เก่งในแบบที่หลับตาทำได้ ‘อาวุธ’ ที่ทุกคนต้องงัดมาสู้กันจริงๆ ก็คือการตัดสินใจเลือกเมล็ดกาแฟ และคอนเซปต์การนำเสนอ 3 เมนูบังคับที่ว่าด้วยเมนูเอสเพรสโซ เมนูกาแฟนม และเมนูซิกเนเจอร์   “ปีนี้เราใช้กาแฟจากประเทศเอกวาดอร์ สายพันธุ์ Typica Mejorado จากนักแปรรูปชื่อ Pepe Jijon ในฟาร์มเขาชื่อว่า Finca Soledad”...

Continue reading →



Roasting with Johnny Lui

Johnny Lui, a pioneer of Bangkok’s brunch scene and the executive chef of Roast, opens up about his journey in the culinary world, the capital’s burgeoning food scene, and life as a chef. There is something inexplicably charming about the smell of a roast straight out of the oven, the warm colors of an aromatic soup, or the sound of sizzling garlic hitting the oil of a heated pan. The combination of familiar ingredients brought together in an uncomplicated way is what allows comfort food to remain relevant in a world where molecular gastronomy and 25-course tasting menus are becoming the norm. Johnny Lui’s reverence for simplicity began after his first course in culinary school, where he was introduced to...

Continue reading →



OUTSIDE THE LINES

  If you’ve ever met a tatted chef in Bangkok, there’s a pretty good chance that they’ve been inked, at least once, by Luke Satoru. The half-Thai, half-Japanese New York native has built a dedicated base of customers in the capital with his meticulous and vastly varying ability, which is revealed through life-lasting depictions of family members, flowers, or even cartoonish characters. Satoru’s first foray tattooing began when he was 15 at Khao San Road, a street notorious for its inexpensive and accessible shops that make it far too easy to justify a 2 am ink sess. For some, such a visit could result in a somewhat regrettable elephant tattoo. For Satoru, it sparked a passion (and, a tattoo that...

Continue reading →


//